กสิกรไทยลุย K PLUS SHOP แอปร้านค้ารับชำระด้วยคิวอาร์โค้ดทั่วประเทศ 1 ล้านร้านค้าในปี 61 อัดแคมเปญพร้อมเดินสายทั่วประเทศ

14 พฤศจิกายน 2017
Share

นายปรีดี ดาวฉาย (ขวา) นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย (กลาง) และนายพิพิธ เอนกนิธิ (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย พร้อมผู้บริหารและพนักงาน ประกาศความพร้อม ให้บริการ K PLUS SHOP ทั่วประเทศ หลังผ่านการทดสอบใน Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว เตรียมเดินสายแคมเปญ “ปิ๊บจังออนทัวร์” เพิ่มยอดร้านค้าใช้แอปพลิเคชันร้านค้าบนมือถือ K PLUS SHOP รับชำระเงินด้วย คิวอาร์ โค้ด ผ่านโมบายแบงกิ้งทุกธนาคาร และสามารถรับชำระเงินจากนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาประเทศไทยผ่านคิวอาร์โค้ดของอาลีเพย์ (Alipay) และ  วีแชท เพย์ (WeChat Pay) คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีร้านค้า K PLUS SHOP กว่า 200,000 ร้านค้า และเป็น 1,000,000 ร้านค้าในสิ้นปี 2561

ธนาคารกสิกรไทยดันยอด K PLUS SHOP สำหรับร้านค้ารับชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ด พร้อมให้บริการทั่วประเทศ ชูจุดเด่นเป็นแอปไทยหนึ่งเดียวรับชำระผ่านคิวอาร์โค้ดแบงก์ไทยทุกธนาคาร คิวอาร์โค้ดอาลีเพย์ (Alipay) และคิวอาร์โค้ดวีแชท เพย์ (WeChat Pay) ที่มีฐานผู้ใช้รวมกันกว่า 1,000 ล้านราย ช่วยเพิ่มโอกาสการขายให้ร้านค้า จัดแคมเปญ “ปิ๊บจังออนทัวร์” ผลักยอดชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดของ K PLUS SHOP ปีนี้กว่า 800 ล้านบาท ร้านค้า 200,000 ร้านค้า และเพิ่มเป็น 1,000,000 ร้านค้าในสิ้นปี 61

 

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ K PLUS SHOP แอปพลิเคชันสำหรับร้านค้าเพื่อชำระด้วยคิวอาร์ โค้ด เปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ธนาคารกสิกรไทยได้พัฒนาฟีเจอร์บน K PLUS SHOP อย่างต่อเนื่อง และได้ผ่านทดสอบใน Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ธนาคารจึงสามารถขยายพื้นที่ให้บริการ K PLUS SHOP ไปยังร้านค้าทั่วประเทศได้ โดยเชื่อมั่นว่า K PLUS SHOP จะสามารถตอบสนองการใช้งานของร้านค้าต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ด้วยจุดเด่นของแอปฯ ที่จะช่วยร้านค้าทั้งในด้านการรับชำระที่สะดวกยิ่งขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการ ดังนี้

เพิ่มช่องทางการรับชำระเงินเพิ่มโอกาสในการขาย คิวอาร์โค้ดที่สร้างโดย K PLUS SHOP เป็นคิวอาร์โค้ดมาตรฐาน พร้อมรองรับการชำระผ่านโมบาย แบงกิ้ง ของทุกธนาคารในไทยโดยไม่มีค่าธรรมเนียมการใช้งานทั้งฝั่งร้านค้า และฝั่งลูกค้าที่ซื้อสินค้าและบริการในวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท จึงเพิ่มความสะดวกให้ทั้งร้านค้าและผู้ซื้อ พร้อมลดการเสียโอกาสจากการที่ลูกค้าพกเงินสดมาไม่พอ ลดความผิดพลาดจากการทอนเงินผิด หรือกดเลขบัญชี/หมายเลขโทรศัพท์ผิดตอนโอนเงิน ลดภาระในการจัดการเงินสด ไม่ต้องนับเงินเมื่อหมดวัน เพราะเงินจะโอนเข้าบัญชีที่ผูกกับ K PLUS SHOP เมื่อปิดยอดทุกวัน

 

รองรับการชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดของ Alipay และ WeChat Pay นับเป็นอีกจุดเด่นที่สำคัญ เนื่องจาก Alipay และ WeChat Pay มีฐานลูกค้าที่ใช้คิวอาร์โค้ดมากที่สุดในโลกถึง 500ล้านราย และ 650 ล้านรายตามลำดับ  และ K PLUS SHOP เป็นแอปพลิเคชันแรกของธนาคารไทยที่รองรับการชำระเงินของลูกค้า Alipay และ WeChat Pay ได้แล้ว  จึงช่วยเพิ่มโอกาสให้ร้านค้าที่ใช้งานแอปฯ K PLUS SHOP สามารถขายสินค้าและบริการให้แก่กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หมุนเวียนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 มีจำนวนปีละกว่า 9ล้านคน และในอนาคตจะมีการพัฒนาให้สามารถชำระเงินสำหรับการค้าออนไลน์ด้วยคิวอาร์โค้ดได้ ก็จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าให้ร้านค้าได้อีกจำนวนมหาศาล

 

 

K PLUS SHOP จะแจ้งยอดเงินเข้าและสร้างรายงาน

 

ยอดขาย ช่วยให้ร้านค้าสามารถบริหารจัดการข้อมูลทางการเงินของร้านได้ง่ายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยทุกครั้งที่ร้านค้าได้รับชำระ K PLUS SHOP จะแจ้งเตือนยอดเงินเข้าแบบเรียลไทม์ และจะโอนเงินเข้าบัญชีทุกวันหลังปิดยอด นอกจากนี้ยังมีรายงานสรุปยอดขายแบบรายชั่วโมง รายวัน และรายเดือน

 

ลูกค้าสามารถสมัครใช้บริการ K PLUS SHOP ได้ง่ายด้วยตัวเองผ่านแอปฯ K PLUS ได้ทันที ขั้นตอนคือ ล็อกอินเข้าระบบ K PLUS แล้วกดเมนู K+App ซึ่งจะปรากฏในหน้าแรก ดำเนินการตามขั้นตอนการลงทะเบียนบนระบบ K PLUS จนกระทั้งระบบนำไปสู่การดาวน์โหลดแอปฯ K PLUS SHOP จึงล็อกอินเข้าแอปฯ K PLUS SHOP สร้างโปรไฟล์ร้านค้า และเข้าสู่ขั้นตอนการสร้าง QR ของฉัน ก็เสร็จสมบูรณ์ สามารถนำคิวอาร์โค้ดที่ได้ไปใช้งานได้ทันที  สามารถดูรายละเอียด K PLUS SHOP เพิ่มเติมได้ที่ www.kasikornbank.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. K-Biz Contact Center 02-8888822

 

นางสาวขัตติยา กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากการออกจาก Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว คาดว่าจะเกิดการกระตุ้นการใช้งานคิวอาร์โค้ดในการชำระค่าสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารฯ ประเมินว่าการชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ดจะได้รับความนิยมสูงมากจนกลายเป็นหนึ่งในช่องทางหลักของการชำระเงิน เนื่องจากสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางโมบาย แบงกิ้งสูงกว่าช่องทางอื่นๆ โดยธนาคารกสิกรไทยจะเดินหน้าโปรโมทการใช้จ่ายด้วยคิวอาร์โค้ด ในแคมเปญชื่อ “ปิ๊บจังออนทัวร์” ในพื้นที่หัวเมืองทั่วประเทศ เช่น เชียงใหม่ พัทยา อุดรธานี หาดใหญ่ พร้อมจัดโปรโมชั่นทั้งฝั่งร้านค้าที่ใช้ K PLUS SHOP และฝั่งลูกค้าที่จ่ายเงินด้วยฟีเจอร์คิวอาร์โค้ดของ K PLUS ดังนี้

โปรโมชั่น K PLUS SHOP สำหรับร้านค้าที่สมัครใช้งาน K PLUS SHOP จะได้รับโปรโมชั่น 2 ต่อ คือ ต่อที่ 1 รับเงินคืน 300 บาทเมื่อมียอดรับชำระอย่างน้อย 200 บาท 1 รายการ ภายใน60 วันนับจากวันที่สมัคร สงวนสิทธิ์ 1 สิทธิ์/ท่าน/ตลอดรายการ และต่อที่ 2 “Member Get Member” รับเงินคืนสูงสุด  5,000 บาท เมื่อแนะนำเพื่อนทางธุรกิจสมัครใช้งาน K PLUS SHOP สงวนสิทธิ์ 1สิทธิ์/ท่าน/ตลอดรายการ และโปรโมชั่น K PLUS สำหรับผู้ใช้งาน K PLUS เมื่อใช้จ่ายด้วยคิวอาร์โค้ดครบ 300 บาท/รายการ จะได้รับเงินคืน 50 บาท จำกัดจำนวนสิทธิ 1 ท่าน/เดือน ทั้งนี้ โปรโมชั่นแคมเปญ “ปิ๊บจังออนทัวร์” มีจำนวนจำกัด เริ่มตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2560

นอกจากนี้ ธนาคารยังร่วมกับพันธมิตรในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ เพื่อขยายช่องทางการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด คาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาใช้จ่ายเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเพิ่มขึ้นอีก 20% ตั้งเป้าหมาย ภายในสิ้นปี 2560 จะมีมูลค่าการรับชำระด้วยคิวอาร์โค้ดของ K PLUS SHOP กว่า 800 ล้านบาท มีร้านค้า K PLUS SHOP กว่า 200,000 ร้านค้า และเพิ่มเป็น 1,000,000 ร้านค้า ในสิ้นปี 2561

นางสาวขัตติยา กล่าวตอนท้ายว่า การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของโมบาย แบงกิ้ง ทำให้ธนาคารมุ่งพัฒนาช่องทางการทำธุรกรรมการเงินด้วยตนเองบนแอปฯ K PLUS  และเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาแอปฯ สำหรับร้านค้าบน K PLUS SHOP ที่ใช้ในการรับชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน คิวอาร์โค้ด ถือเป็นการเพิ่มช่องทางการรับชำระและเพิ่มความสะดวกสบายให้ร้านค้าและลูกค้า ตอกย้ำศักยภาพของธนาคารในฐานะผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจโมบาย แบงกิ้งที่คาดว่าจะมีลูกค้าผู้ใช้งาน K PLUS ถึง 8 ล้านรายภายในสิ้นปี 2560 นี้ และเป็น 10.8 ล้านรายในสิ้นปี 2561 ภายใต้กลยุทธ์ “Digital Cross-border Payment” คือ การให้บริการระบบชำระเงินผ่านโมบาย แบงกิ้ง ที่ครอบคลุมทั้งลูกค้ารายย่อยทั้งกลุ่มผู้ใช้บริการชาวไทย และกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยปีละกว่า 9 ล้านคน และกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการขนาดย่อม ที่เน้นรูปแบบซื้อง่ายขายคล่อง

วิธีการสมัครและการใช้งาน K PLUS SHOP

  • วิธีตรวจสอบยอดขาย

  • สรุปยอดขายรายชั่วโมง / รายวัน / รายเดือน

  • วิธีใช้งานกับ Alipay / WeChat Pay
    • ลูกค้าชาวจีนเปิด QR Code ของ Alipay หรือ WeChat Pay บนมือถือของตัวเอง
    • ร้านค้าเข้าฟีเจอร์อ่าน QR Code จากในแอปฯ K PLUS SHOP
    • ร้านค้าเลือกว่าจะยิง QR Code ของ Alipay หรือ WeChat Pay
    • ร้านค้าใส่จำนวนเงินที่ต้องการเรียกเก็บเป็นสกุลเงินบาทไทย
    • ร้านค้าใช้แอปฯ K PLUS SHOP สแกนที่ QR Code ของลูกค้าชาวจีน
    • ฝั่งลูกค้าจีนจะปรากฎเงินที่ต้องการเรียกเก็บเป็นเงินหยวน ซึ่งระบบ K PLUS SHOP จะคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนให้โดยอัตโนมัติ จากนั้นกดยืนยันการจ่ายเงิน
    • ร้านค้าได้รับแจ้งเตือนเมื่อการชำระเงินเสร็จสมบูรณ์

วิธีการใช้ K PLUS เมนู Quick Pay สแกน QR Code เพื่อจ่ายเงิน

 

 

 

 

 

Related Posts

  • Data Tech Trends & Predictions for 2025
  • Singapore FinTech Festival (SFF) 2024 06 – 08 November 2024
  • Fintech Course: Unleashing Future of Finance by TFA
bt_bb_section_bottom_right_section_coverage_image

Contact Us

Address

439B-1 Siam Paragon Shopping Mall, 4th Floor, Rama 1 Road, Pathumwan, Pathumwan, Bangkok, Thailand 10330

The information contained in this website is provided for informational purposes only and on an “as is” basis, without representation or warranty of any kind. Thai Fintech Association does not guarantee whether the information is correct or up-to-date.   no event shall Thai Fintech Association be liable to you or any person for any loss of business or profits, or for any indirect, incidental or consequential damages arising out of any use of, or inability to use, or for any other claim by you or any other person.

© Copyrights 2021 - All Rights Reserved - Thai Fintech Association