ความน่าเชื่อถือในวงการสกุลเงินดิจิทัลหรือ Cryptocurrency เป็นเรื่องน่าเป็นประเด็นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ Bitcoin ถือกำเนิดโดยผู้สร้างคือ Satoshi Nakamoto ผู้สร้าง Bitcoin (ที่ยังไม่รู้หน้าตาเขาเป็นอย่างไร) แต่ผู้สร้างไม่ใช้ประเด็นหลัก แต่ประเด็นหลักน่าจะเป็นขับเคลื่อนระบบของมันที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ซึ่งเทคโนโลยีที่รักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ระบบที่คล้ายกับการขุดทองเร่งด่วน และราคาแกว่งไปมาอย่างน่าตกใจ ส่งผลให้ธนาคารหลายๆ ประเทศไทยไม่เชื่อถือในสกุลเงินดิจิทัล หรือเรียกบ้านๆ ว่า “ไม่อยากยุ่งด้วย”
แต่ใน ณ ตอนนี้ และวันนี้ทาง Facebook ประกาศออกสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองที่มีชื่อว่า Libra ที่สร้างสรรค์ร่วมกันโดยบริษัทด้านเทคโนโลยี การเงิน และ Facebook รวมถึงบริษัทด้านการธนาคารอย่าง Visa และ Mastercard ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นโปรเจ็คที่เรียกแบบไทยๆ ประมาณว่า “เล่นใหญ่ รัชดาลัยเธียเตอร์” โดยขับเคลื่อนสิ่งดังกล่าวบนระบบ Blockchain คล้ายกับ Bitcoin และ Ethereum แต่ในคณะที่ Libra ได้คลอดออกมาแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นโปรเจ็คที่รันโดย Facebook อยู่ดี นั้นหมายความว่า Libra จะอยู่บนระบบ Blockchain ที่พัฒนาโดยคนใน Facebook และพาร์เนอร์ทางธุรกิจที่ร่วมกันพัฒนาสกุลเงินดังกล่าว
Libra wallets จะถูกฝังลงใน Facebook apps ได้แก่ Messenger และ WhatsApp ซึ่งหมายความว่า Facebook product จะเป็นขั้นแรกที่ใช้สร้างประสบการณ์ให้แก่ User อีกนัยยะหนึ่งก็คือถ้าใช้ Libra ก็อาจหมายถึงการให้ความไว้วางใจใน Facebook และ Libra หมายถึงการยึดมั่นหรือภักดีต่อบริษัท หากโปรเจ็คนี้ประสบความสำเร็จ อาจหมายถึงมุมมองที่คนทั่วโลกมอง Cryptocurrency ดีขึ้น
Libra ทำงานบน Blockchain ที่ได้รับอนุญาต ซึ่งหมายความว่ามีเพียงบริษัทใน Libra Association เท่านั้นที่สามารถขุดได้ โดยนักพัฒนาอธิบายว่า “มันเป็นสิ่งที่จะเข้ามาตอกย้ำด้ายความมั่นคงของ Libra ช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาความล่าช้าในการทำธุรกรรมที่ได้รับผลกระทบจาก Bitcoin และทำให้ Libra Association เป็นเหมือนธนาคารกลางที่บริหารสกุลเงินอย่างแข็งแกร่ง” จากการอธิบายดังกล่าวเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เพราะเชื่อว่าหลายคนต้องการ ฺBlockchain ที่สามารถธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วและจะไม่ดิ่งลงหลังจากที่ซื้อได้แล้ว
Cr. Russell Brandom (www.theverge.com)