ตั้งแต่ปลายปี 2019 จนถึงตอนนี้ ไม่มีใครไม่รู้จัด Corona virus หรือที่เรียกว่า Covid-19 ที่กำลังสร้างความหายนะในตลาดหุ้น ส่งให้ได้รับผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมการหลักของประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดพฤติกรรมการชำระเงินของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก…เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ในทิศทางไหน เราจะมาขยายให้คุณในบทความนี้
จากวิกฤตไวรัส COVID-19 สร้างเปลี่ยนในเชิงบวกไปให้แก่การชำระเงินบนช่องทางดิจิทัล เหตุผลหนึ่งนั้นคือ “ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อจากการใช้เงินสด” นั้นเอง ซึ่งแน่นอนว่าหลายประเทศบนโลกมีการทำธุรกรรมแบบ Contactless อยู่แล้ว หรือที่รู้จักกันก็คือการไม่ใช้เงินสดที่หันมาใช้การทำการเงินบนดิจิทัล…ก่อนหน้านี้การชำเงินดิจิทัลอาจจะเป็นสิ่งที่ยากสำหรับคนบางกลุ่ม แต่ ณ ตอนนี้คนกลุ่มดังกล่าว อาจจะเห็นความสำคัญและเปิดใจกับชำระเงินแบบดิจิทัลมากขึ้น
แต่ ณ ตอนนี้ แน่นอนการชำระเงินได้ลดลงไปมากในอุตสาหกรรม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของระบบการชำระเงินทั่วโลก โดยเฉพาะกับประเทศไทยที่เน้น “ด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหลัก” ถึงแม้การชำระเงินสู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะน้อยลง แต่เป็นโอกาสหนึ่งของบริษัทผลันตัวเองสู่ดิจิทัล โดยเฉพาะกับร้านชำที่ไม่ใช้พนักงาน แต่หันมาใช้ระบบการชำระเงินที่ไม่มีแคชเชียร์ อาจได้รับการยอมรับมากขึ้นเพราะทำให้ลูกค้าสามารถลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อไวรัสผ่านการปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ได้
ความเสียหายด้านการท่องเที่ยวที่น่าเป็นห่วงประเทศหนึ่งอาจจะเป็นประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยว ใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้า และบริการเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้หลักสำหรับกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในสหรัฐ ซึ่งเมื่อดูข้อมูลในปี 2017 พบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติใช้เงินในสหรัฐอเมริกากว่า 210,000 ล้านเหรียญสหรัฐ…กลายเป็นประเทศที่ได้รับเงินจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก และหนึ่งในกลุ่มนั้นท่องเที่ยวหลักของสหรัฐนั้นก็…ชาวจีน
การลดลงของนักท่องเที่ยวชาวจีนในสหรัฐอเมริกาหรือแม้กระทั่งประเทศอื่นก็ตาม ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนบ่อยขึ้นและมากขึ้น ส่งผลต่อการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนของจีนมีความเข้มข้นสูงซึ่งมียอดขายเพิ่มขึ้น 65% สร้างผลเชิงบวกแต่การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์เช่นกัน โดยตัวแทนของ PPRO’s Group ให้ข้อมูลว่า “หมวดหมู่สินค้าที่ติดท็อป สำหรับผู้ซื้ออีคอมเมิร์ซในประเทศจีนคือสายการบินและโรงแรมที่ 15%, เสื้อผ้าและรองเท้าเป็นอันดับต่อมาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดที่คิดเป็น 13.2% และตามด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าคิดเป็น 12.7%”
หนึ่งความท้าทายที่สำคัญสำหรับริษัทต่างๆ คือ การผลิตสินค้าและจัดส่งให้กับลูกค้าในประเทศจีน ตัวอย่างเช่น Apple ปิดโรงงานในประเทศจีนและเพิ่งจะเปิดใหม่อีกครั้ง นี่อาจทำให้เกิดการขาดแคลน iPhone และ iPad ทั้งนี้หากลูกค้าในประเทศจีนต้องการซื้อ อาจจะหาซื้อบนชั้นวางของร้านได้ยาก
ด้วยความเจริญทางเทคโนโลยีดิจิทัล และสถานการณ์วิกฤตของโลกในช่วงนี้ เราปฎิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเทคโนโลยีทางการเงิน ที่กลายเป็นช่องทางหนึ่งที่สำคัญมากในช่วงนี้…ไม่มีการชำระเงินดิจิทัล คนทั่วโลกจะยิ่งลำบากขึ้นในการป้องกันเชื้อโรค และนี่คือสิ่งที่เราต้องตระหนักถึงและรับรู้การลดใช้เงินสดกันให้มากขึ้น…. Fintech will protect you all ไม่จับเงินสด ไม่ติดเชื้อโรค