เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาทาง Bank Negara Malaysia ได้สำรวจถึงผลกระทบของระบบ Cryptocurrency ร่วมกับ Bank Negara Malaysia หรือที่วงการธนาคารในมาเลเซียรู้จักกันดีในฐานะ “ธนาคารกลางผู้สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัล” โดย Central Bank Digital Currency (CBDC) กล่าวไว้ว่า Cryptocurrency ไม่น่าจะใช้ได้สะดวกแบบเงินสดได้ในเร็ว ๆ นี้
รูปภาพ : Bank Negara Malaysia – Central Bank Digital Currency: A Monetary Policy Perspective
จากการศึกษาพบว่านวัตกรรมที่สำคัญของ CBDC คือการที่บุคคลและบริษัท สามารถจับบัญชีตรงกับธนาคารกลางและการทำธุรกรรมโดยตรงกับอีกสกุลเงินหนึ่ง โดยใช้ Cryptocurrency ซึ่งผลการศึกษายังกล่าวอีกว่า “นวัตกรรมบางอย่างนั้นเกิดจากใช้ Private Digital Currencies เช่น เทคโนโลยีบัญชีแยกประเภท (DLT)” เหตุนี้ทำให้มีหลายคนสนใจเรื่อง Private Digital Currencies จำนวนมากขึ้น ส่งผลให้ทางธนาคารกลางมาเลเซียต้องตรวจสอบ Cryptocurrency และในประเทศต่าง ๆ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน และสวีเดน ได้มีความสนใจต่อเรื่องดังกล่าว อีกทั้งทางสนใจที่จะศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับ Cryptocurrency ในประเทศสิงคโปร์และแคนนาดาที่มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบการชำระเงิน
รูปภาพ : Bank Negara Malaysia – Central Bank Digital Currency: A Monetary Policy Perspective
CBDC สามารถปลดล็อคความสามารถของธนาคารกลางโดยการสนับสนุนการใช้ Blockchain เพื่อใช้ในการรักษาความปลอดภัยแบบเรียลไทม์ ในทางกลับกันทาง CBDC แนะในธนาคารในมาเลเซียทำ Cryptocurrency อย่างจริงจัง ทั้งนี้คุณ Tan Sri Muhammad Ibrahim ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติมาเลเซีย กล่าวว่า “เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่าธนาคารกลางของประเทศจีนกำลังตัดสินใจว่าในช่วงปลายปีนี้จะมีการพิจารณาโครงการลงทุนทางกฎหมายในประเทศมาเลเซียหรือไม่ ซึ่งทางเราก็หวังว่าจะได้รับข่าวดี ในส่วนเรื่องที่ว่าหากทางธนาคาร Negara ตัดสินใจที่จะยอมรับ cryptocurrencies แล้ว ทางธนาคารแห่งประเทสมาเลเซียแนวทางหรือขั้นตอนบางอย่างในการจัดการ” และกล่าวอีกว่า “แนวทางที่เราจะออกก่อนสิ้นปีนี้จะกล่าวถึงประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับการลงทะเบียนของผู้ใช้งาน เพื่อเป็นการรวบรวมข้อมูลให้เกิดความมั่นใจว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นโปร่งใส”
เมื่อไม่นานมานี้ทางธนาคารกลางมาเลเซียได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ Cryptocurrency (เมื่อปี 2014) ระบุว่า Bitcoin ไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นกฎหมายในประเทศมาเลเซียและไม่ได้ควบคุมระบบที่เกี่ยวกับ Cryptocurrency ซึ่งความคิดเห็นนี้ทำให้ Cryptocurrency ได้เพิ่มขึ้นในความนิยมและดึงดูดความสนใจมากในระดับสากล ในขณะเดียวกันทางมาเลเซีย จีน และเกาหลีใต้กำลังตัดสินใจในเรื่องของข้อกฎหมาย ทั้งนี้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านทางจีนสั่งปิดการใช้งาน ICOs ในประเทศจีน และทางเกาหลีใต้ก็จะมีการห้ามเรื่อง ICOs แต่ไม่ได้กีดกันเหมือนทางประเทศจีน แต่เป็นการเตือนให้ผู้ซื้อตรวจสอบอย่างเข็มงวด
Reference
Fintechnew(2018). Malaysia Central Bank Publishes Study about Cryptocurrencies. Retrieve form. http://www.fintechnews.org/malaysia-central/.
