จากวันแรกที่ร่วมก่อตั้งชมรมฟินเทคโดยมีผู้ก่อตั้งคือ คุณกรณ์ จาติกวนิช โดยเราได้เปิดตัวชมรมโดยใช้สถานที่ของ C ASEAN ซึ่งได้รับเกียรติจากคุณสุทธิชัย หยุ่น และ ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และอีกหลายท่าน ในการร่วมการสร้างชมรมฟินเทคขึ้นมา ซึ่งจากวันนั้นถึงวันนี้ ผ่านมาประมาณ 3 ปี และมาเปลี่ยนในรูปแบบสมาคมในภายหลัง โดยเราจะเห็นกิจกรรมและภารกิจของเราเป็นที่คนตาดีกับคนที่ประกอบธุรฟินเทค ตลอดจนผู้ที่สนใจด้านการเงินและเทคโนโลยีการเงิน
สมาคมฟินเทคประเทศไทยได้จดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไท เพราะทีมงานบริหารเห็นว่าในอนาคตหากเราทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติในด้านการผลักดันอุตสาหกรรมฟินเทค เราอาจจะเปลี่ยนมาใช้คำว่า “สมาคมฟินเทคแห่งประเทศไทย” โดยหวังว่าอนาคตทีมงานบริหารทั้งทีมปัจจุบันและทีมที่จะเข้ามาบริหารใหม่จะสามารถทำสิ่งนี้ให้เป็นจริง
หากกล่าวถึงสิ่งที่ท้าทายและภารกิจของสมาคมที่ทาง คุณกรณ์ จาติกวนิช ได้ร่างไว้ 4 เรื่องเราก็ทำสำเร็จไปแล้ว ซึ่งบางเรื่องเกิดขึ้นเองสถานการณ์ และบางเรื่องเกิดขึ้นตามการปฎิบัติงานของเรา โดย 4 เรื่องนั้น ได้แก่
- การลดต้นทุนการเงินของคนไทย
เห็นได้ว่า 3 ปีที่ผ่านมาก็จะพบปรากฏการณ์ฟินเทค ตัวอย่างเช่น การยกเลิกค่าธรรมเนียมของธนาคารต่างๆ แม้จะกระทบกับภาคธนาคารบ้างแต่เกิดประโยชน์กับประชาชนไม่น้อย เพราะมันทำให้ประชาชนประหยัดต้นทุนมากยิ่งขึ้น
- การเข้าถึงการเงิน
จะเห็นได้ชัดว่าประเทศไทยมีปัญหาเรื่องการเข้าถึงการเงิน โดยดูจากการกู้เงินนอกระบบที่มีดอกเบี้ยร้อยละ 5 ถึง ร้อยละ 10 ที่เก็บดอกเบี้ยเป็นรายวัน ซึ่งปัจจุบันก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ แต่เราก็พบว่านวัตกรรมฟินเทคเข้าไปถึงคนพวกนั้นมากขึ้น
- ความเท่าเทียมในการแข่งขันของภาคธุรกิจฟินเทค
ปัจจุบัน ก็มีความยากและความยุ่งยากไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของกฎหมายหรือกระบวนการต่างๆ ที่ผ่านมาทางสมาคมฟินเทคก็พยายามจัดการในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของตัวพระราชบัญญัติฟินเทค พระราชบัญญัติระบบชำระเงิน สมาคมเราก็ได้เข้าร่วมกับทุกการประชุม ที่เกี่ยวข้องกับการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ต่างๆ เป็นงานที่สมาคมฟินเทคจะต้องทำต่อไปอย่างต่อเนื่อง
- การผลักดันฟินเทคสตาร์ทอัพให้เติบโต
โดยเรามุ่งเน้นผักดันฟินเทคสตาร์ทอัพให้ไปในระดับประเทศหากเป็นไปได้อยากให้เข้าถึงการแข่งขันระดับนานาชาติ สิ่งที่เราสังเกตเห็นนั้นคือเรามีบริษัทซินเท็คที่มากขึ้น และมีหลายบริษัทมีแนวโน้มจะเติบโตมากขึ้น
สุดท้ายนี้ทางสมาคมฟินเทคเชื่อว่าถ้าเรายังสนับสนุนสมาคมฟินเทคกันต่อไป เราอาจจะมีโอกาสได้เห็นตัวบริษัทฟินเทค เติบโตไปข้างหน้า และอุตสาหกรรมฟินเทคในประเทศไทย ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง ตามภารกิจของสมาคมฟินเทคที่เราตั้งไว้เมื่อตอนจดทะเบียน
เจษฎา สุขทิศ
นายกสมาคมฟินเทคประเทศไทย