หลาย ๆ คนต้องการทราบว่าภาครัฐกำลังทำอะไรในอุตสาหกรรมฟินเทค ต้องบอกก่อนเลยว่ากระทรวงการคลังติดตามความคืบหน้าของสมาคมฟินเทคประเทศไทยมาโดยตลอด และนำไปประสานกับทางกรรมการที่ภาครัฐจัดตั้งขึ้นมา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง Ecosystem ในการสร้างสตาทร์อัพในเมืองไทย ซึ่งทางเรานั้นมีคนที่เก่งด้านสตาทร์อัพเข้ามาร่วมงาน ทำให้ทางเราต้องปรับบทบาทให้เข้ากับสิ่งที่กำลังมาพอสมควร
สิ่งที่เราทำเบื้องต้นก็คือการปูและปรับพื้นฐาน เพื่อให้มีความเอื้ออำนวยและปรับให้เข้ากับทางกฎหมาย ในส่วนของมาตรการ ปัจจัยทางด้านภาษีต่าง ๆ ซึ่งเหล่านี้เราดูเพื่ออยากทราบเราช่วยเหลือได้อย่างไร โดยล่าสุดที่เรานำเสนอ ครม. นั้นคือ การลงไปส่งเสริม Angle Investor ว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง หากกลับด้านฟินเทคทางเราจะทำไรได้บ้าง จะทำอย่างไรให้คนไทยเข้าถึงเทคโนโลยีการเงินได้บ้าง รมว.คลัง จึงริเริ่มโครงการ National E-Payment เพื่อเริ่มต้นในการทำธุรกรรมทางการเงินด้วยอีเล็กทรอนิกส์ ซึ่งโครงการนี้ก็มีความคืบหน้าไปมาก
กลับมาทางอุตสาหกรรมฟินเทคหลายคนคงอยากทราบว่ากระทรวงการคลังจะทำอะไรต่อ ซึ่งเรากำลังพิจารณาแนวทางหลายอย่างคล้ายกับหลายประเทศ เพื่อแสดงให้เห็นว่าภาครัฐนั้นสนับสนุนเรื่องฟินเทค อีกไม่ช้าเราจะจัดตั้ง สถาบันนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเงินแห่งชาติ ขึ้นมา ซึ่งเป็นหลักสำคัญที่เราอยากจะเห็นฟินเทคสตาร์ทอัพเกิดในสถาบันนี้ได้ โดยมีพันทมิตรที่หลากหลาย มี Stakeholders มากมายที่เชื่อมต่อกับสถาบันนี้ ในส่วนของทรัพยากรนั้น กระทรวงการคลังนั้นเห็นว่าไม่ใช่ข้อติดขัด เนื่องจากเรามีทุนที่จะร่วมสร้างตรงนี้ โดยอยากจะให้ในส่วนของมหาวิทยาลัยและสถาบันทางการเงินหลักต่างๆ เข้ามามีความเกี่ยวข้อง อีกทั้งภาคหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อให้เป็นแหล่งสนับสนุนการทดสอบและพัฒนานวัตกรรม เพื่อขยายผลได้มากขึ้น รวมไปถึงการเป็นเวที Pitching ให้แก่ฟินเทคสตาร์ทอัพ ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ท่านประธานของสมาคมฟินเทคประเทศไทยอยากจะได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการคลัง สิ่งที่เราจะต้องทำนี้ จะต้องพยายามไม่ให้เห็นเป็นอุปสรรค จะต้องสร้างแรงจูงใจ สนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ โครงการสถาบันนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเงินแห่งชาติน่าจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้